โครงการ mori HAUS ตั้งอยู่ภายใน T77 Comunity ซอยสุขุมวิท 77 ย่านอ่อนนุช ซึ่งก่อนหน้านี้ แสนสิริได้เปิดตัวคอนโดในบริเวณนี้ไปแล้วทั้งสิ้น  5 โครงการ ได้แก่ Blocs77, The Base sukhumvit 77, The Base Park West, The Base Park East, hasu HAUS และยังมีโครงการทาว์เฮาส์ 4 ชั้น อย่าง Garden Square อีกด้วย แต่ละโครงการได้รับกระแสตอบรับจากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างล้นหลาม เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า ทำเลนี้ถือเป็นบริเวณหนึ่งที่ผู้คนเลือกอาศัยอยู่ไม่น้อย เนื่องจากเป็นทำเลศักยภาพทั้งทางด้านสิ่งอำนวยความสะดวกรายล้อมในบริเวณนี้ เช่น บิ๊กซี อ่อนนุช,โลตัส อ่อนนุช เป็นต้น และด้านการเดินทางไม่ว่าจะด้วยรถยนต์ส่วนตัวที่สามารถเข้า-ออกได้ทั้งสองเส้นทางสำคัญ คือ ด้านหน้าเป็นซอยสุขุมวิท 77 ซึ่งหากตรงเลยไปเรื่อย ๆ จะสามารถเข้าสู่ถนนศรีนครินท์ ถนนพัฒนาการ ผ่านแยกประเวศไปจนถึงลาดกระบังได้เลย ส่วนด้านหลังเป็นซอยปรีดีพนมยงค์ 2 ซึ่งทะลุออกสุขุมวิท 71 สู่แยกพระโขนง หรือจะขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ก็ระยะทางเพียงประมาณ 500 เมตร จากทางออกด้านหลัง แต่หากไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัวก็สะดวกสบายไม่แพ้กัน ด้วยทางโครงการมีรถรับ-ส่ง ถึง BTS อ่อนนุช ระยะทาง 1.4 กิโลเมตร แต่ขากลับจาก BTS เข้าคอนโดอาจต้องใช้รถโดยสารค่ะ เพราะระยะทางหากเดินอาจได้เหงื่อบ้าง โดยอาตเรียกวินมอเตอร์ไซต์, แท็กซี่ ไปถึงหน้าคอนโดเลย หรือสองแถวลงหน้าโครงการค่ะ ตัวโครงการ mori HAUS หากเข้าจากทางสุขุมวิท 77 จะต้องข้ามสะพานแสนสำราญก่อน เมื่อลงสะพานจะเห็น Community mall Habito อยู่ทางขวามือ แล้วเลี้ยวขวาตรงไปอีก 200 เมตร มาสุดโครงการก็จะพบกับ mori HAUS อยู่ทางขวามือ รวมระยะทางเข้ามาประมาณ 700 เมตร ซึ่งจะเสร็จสมบูรณ์ภายในเดือนพฤศจิกายน ปี2560 แต่หากท่านใดสนใจเข้ามาชมห้องตัวอย่างก่อนได้ที่สำนักงานขาย บน Habito ชั้น 3     

แน่นอนว่าเมื่อเราเลือกทำเลในการเดินทางได้สะดวกโดยเฉพาะการเข้าเมือง ก็ต้องแลกมากับสภาพแวดล้อมที่เป็นเขตชุมชนเมืองใหญ่ ซึ่งตามมาด้วยมลภาวะทางอากาศและเสียง แต่จุดนี้ไม่ใช่กับ mori HAUS แน่นอน เพราะแสนสิริ มีคอนเซปต์ที่สามารถตอบโจทย์นี้ได้อย่างชัดเจนมาก คือ Trees of Life ที่ต้องการนำป่าขนาดย่อมมารายล้อมในโครงการ ให้ลูกบ้านได้ใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ สัมผัสกับความรู้สึกถึงคำว่า “บ้าน” จริง ๆ ตั้งแต่หน้าโครงการที่มีต้นไม้อยู่รอบ ๆ การรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ทั้งหน้าทางเข้า T77 และหน้าโครงการเอง รั้วสูง 3  เมตร ถนนภายในกว้าง 6 เมตร ซึ่งความพิเศษอยู่ตรงพื้นที่ส่วนกลางมากกว่า 2,000 ตารางเมตร สระว่ายน้ำฟรีฟอร์มออกแบบสไตล์รีสอร์ท จุดกว้างที่สุด 10 เมตร จุดแคบที่สุด 5 เมตร และจุดยาวที่สุด 25 เมตร พื้นที่สีเขียวเน้นไม้ยืนต้นรอบสระน้ำ พร้อมฟรี wifi ทั่วบริเวณ มีส่วนที่แทรกตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติขนาดย่อมนี้ โดยแยกออกมาจากตัวอาคาร เรียกว่า The Glass Haus เป็นล็อบบี้ และห้องออกกำลังกายพร้อมอุปกรณ์ครบครัน สูง 3.5 เมตร หลังคาจัดเป็นพื้นที่สวนเพื่อสร้างความกลมกลืน สามารถขึ้นไปนั่งชมทัศนียภาพของสระว่ายน้ำ และสวนส่วนกลางอีกมุมหนึ่งได้ ทางเข้าโครงการหันหน้าทางทิศตะวันตกตรงข้ามโรงเรียนบางกอกเพลส และทางด่วน ทิศตะวันออกและทิศเหนือจะโล่งไม่มีอาคารสูงบดบัง ทิศใต้จะติดกับ park count ซึ่งห่างกันประมาณ 20-25 เมตรภายในโครงการ  

เข้ามาส่วนห้องพัก มีทั้งหมด 4 แบบด้วยกัน ตั้งแต่ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ไปจนถึง 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ห้องพักหน้ากว้างพื้นที่ภายในเหมาะสำหรับครอบครัว ภายในห้องจะรู้สึกได้ถึงความโปร่ง โล่ง เพราะความสูง Floor to Ceiling ให้มาถึง 2.7 เมตร ส่วนในห้องน้ำอยู่ที่ 2.5 เมตร ซึ่งโดยทั่วไปแล้วคอนโด Low Rise จะมีความสูงภายในห้องประมาณ 2.4 กระจกทั้งหมดสูงชิดเพดาน ทำให้ยิ่งรู้สึกถึงความสบาย ไม่อึดอัด แสงสว่างเข้ามาเพียงพอ พื้นห้องเป็นลามิเนตลายไม้ ส่วน Living Room พื้นที่มากพอสำหรับวางโซฟา กับโต๊ะอาหาร ถือเป็นจุดศูนย์รวมของครอบครัวที่ทำออกมาได้เหมาะ สำหรับทุกวัย ระเบียงขนาด 1.5 เมตร ถือว่ามาตรฐาน การวางคอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศถือว่าอยู่ในจุดที่ดี มีการติดระแนงไม้ เพื่อไล่ลมร้อนออกสู่ภายนอก ในบางชั้นมีการปลูกต้นไม้ในกระถางใหญ่มาให้ แต่บางชั้นจะทำกระจกดับเบิ้ล    สกินสูงถึงฝ้าคลุมตัวระเบียง ส่วนห้องครัวที่เชื่อมต่อกับ Living Room ให้ชุดเคาน์เตอร์ TOP แกรนิตสีดำ ดูโมเดริน์ทันสมัย พร้อม Hood Hob พิเศษด้วยเทคโนโลยีระบบระบายอากาศแบบทำให้เวลาทำครัวไม่ว่าจะหนัก หรือเบา ก็หมดปัญหาเรื่องกลิ่น ควันลดน้อยลง ส่วนห้องนอนเล็กจะอยู่ฝั่งซ้ายมือของห้อง มีเตียง 5 ฟุต ตู้เสื้อผ้าให้ ห้องน้ำจะเป็นประตูแบบ Double access เชื่อมระหว่างห้องนอนเล็ก กับ Living room ถือว่าสะดวกทั้งผู้อยู่อาศัยและแขก ภายในห้องน้ำเป็นพื้นแกรนิตลายหินอ่อน ประกอบกับกรอบไฟตรงกระจกเหนืออ่างล้างหน้าดูเรียบหรู พร้อมมีฉากกั้นให้ แยกโซนเปียก-แห้ง พร้อม Rain Shower สุดท้ายภายในห้องนอนใหญ่อยู่ทางขวามือสุด จะให้ของมาเหมือนกับห้องนอนเล็ก แต่จะมีห้องน้ำในตัวที่เพิ่มอ่างอาบน้ำไว้ให้ด้วย         

เรียกได้ว่าโครงการ mori HAUS มีความใส่ใจรายละเอียดของตัวห้อง ไม่ว่าจะเป็นวัสดุที่ใส่เข้ามาให้ หรือฟังชั่นการใช้งานต่าง ๆ และพื้นที่ส่วนกลางเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของลูกบ้านตามคอนเซปต์ Trees of Life ได้ดีทีเดียวค่ะ